“นี่เป็นบ้านของเด็กสาวที่ชื่อเฟเรียใช่หรือไม่” ชายอ้วนท้วมแปลกหน้ายืนอยู่หน้าประตูบ้าน “ท่านเป็นใครกัน รู้จักกับเฟเรียด้วยหรือ” เมเรียซึ่งออกมาเปิดประตูถามขึ้น ชายตรงหน้าสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ดูหรูหรา และแปลกตา เหมือนไม่ใช่คนของดินแดนอีสการ์ด
“ใช่จริง ๆ ด้วย ข้าต้องการพบนางอยากขอบคุณนางอีกสักครั้งที่ช่วยชีวิตข้าไว้”
เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนไม่มีประสงค์ร้าย เมเรียจึงเชื้อเชิญเขาเข้ามาในบ้าน
“เอ้า พวกเจ้ารีบขนเข้ามาเร็ว” ชายร่างอ้วนสั่งลูกน้องซึ่งหอบหิ้วของอยู่ข้างหลัง ให้ขนย้ายของเข้ามาในบ้าน
“ขออภัยท่านด้วย” ชายร่างอ้วนออกตัว ไม่นานนักบ้านของนางก็เต็มไปด้วยลังมากมายซึ่งไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรบ้าง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” อัสคากลับมาถึงบ้านพร้อมกับเฟเรียหลังจากพานางไปฝึกเวทย์ข้างนอก
“โอ้ สาวน้อยเจ้าอยู่นี่จริง ๆ ด้วย ข้าตามหาเจ้าเสียหลายวัน” ชายร่างอ้วนหันไปพูดกับเฟเรียอย่างดีอกดีใจ
“เขาบอกว่าอยากมาขอบคุณเจ้าน่ะเฟเรีย” เมเรียกล่าว
เฟเรียมองชายร่างอ้วนท้วมสักครู่จึงนึกออกว่าเคยพบกันที่ไหน
“ข้าจำได้แล้ว วันนั้นข้าให้ดอกไม้ท่านไป”
“ใช่แล้ว ๆ ข้าเอง ข้าอยากขอบคุณเจ้าที่เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้” แล้วเขาก็กล่าวสรรเสริญนางที่ช่วยชีวิตเขาจากงูร้าย อัสคาและเมเรียที่ได้ฟังก็พลอยรู้สึกภาคภูมิใจไปด้วย
“เจ้าเก่งจริง ๆ เฟเรีย” อัสคาชื่นชมในตัวลูกสาวคนเก่ง เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ นางคือเด็กในคำทำนาย เด็กที่มีชะตายิ่งใหญ่
“ข้าเดินทางมาค้าขายที่อีสการ์ดนี่ได้ไม่กี่วัน นึกว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้วโชคดีที่เจอกับลูกสาวของพวกท่านเสียก่อน บุญคุณนี้ข้าไม่ลืมเลย”
แม้เฟเรียจะยังไม่เข้าใจเรื่องที่ชายคนนี้พูด แต่นางก็คิดว่าที่ชายคนนี้ขอบคุณนางอาจเป็นเพราะดอกไม้ที่นางมอบให้เขาก็ได้ นางเคยได้ยินว่าพวกงูไม่ชอบดอกไม้ชนิดนี้เท่าใด นางให้ดอกไม้เล็ก ๆ เพียงดอกเดียว นึกไม่ถึงว่าดอกเล็ก ๆ นั้นจะช่วยกันงูร้ายออกไปได้
“ท่านลุงก็กล่าวเกินไป ข้าไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย”
“ยังไงเจ้าก็เป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้อยู่ดี พวกเวทย์มนต์ข้าเองก็ไม่ได้เรื่อง เป็นแต่ค้าขาย เลยป้องกันตัวเองไม่ได้ วันนี้ข้าเลยนำของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ หวังว่าเจ้าคงรับน้ำใจจากข้านะ”
ชายร่างอ้วนชี้ไปทางกล่องลังมากมายที่เขานำมา
“ท่านลุงไม่ต้องให้อะไรข้าหรอก”
“ได้อย่างไร หากเจ้าไม่รับไว้ข้าคงไม่สบายใจ ได้โปรดรับไว้เถอะนะ”
“แต่ข้าว่ามันมากมายเกินไป” ของพวกนี้มากมายเกินไปเมื่อเทียบกับดอกไม้เพียงหนึ่งดอก
“ไม่เลย ไม่เลย แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ อย่าเกรงใจไปเลยข้าเป็นพ่อค้า ของพวกนี้ข้ายังมีอีกมากมายนัก”
หลังจากชายร่างอ้วน ผู้ซึ่งเป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวยกลับไปแล้ว ทั้งสามจึงช่วยกันเปิดดูลังที่เขามอบให้ แต่ละลังข้างในมีแต่ของมีค่า ผ้าเนื้อดี น้ำหอม เครื่องประดับ และอีกมากมาย
“พ่อภาคภูมิใจในตัวเจ้าเหลือเกิน เฟเรีย” นางนำโชคลาภ และความรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัวจริง ๆ
เฟยาเข้าไปฝึกเวทย์กับอาจารย์ในป่าต้องห้ามกว่าจะกลับถึงบ้านก็เย็นมากนัก
“อะไรเต็มไปหมดเนี่ย” ข้าวของมากมายเกลื่อนเต็มบ้านไปหมด
“ของเฟเรียทั้งนั้น” เมเรียบอกลูกสาว “วันนี้มีพ่อค้าคนหนึ่งให้นางมา เขาบอกว่าเฟเรียช่วยชีวิตเขาไว้จากงู”
“งู?”
“เจ้าก็เอาอย่างเฟเรียบ้างนะเฟยา หมั่นฝึกเวทย์เข้าไว้ จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ ไม่ใช่เอาแต่วิ่งเล่นไปวัน ๆ อย่างนี้” อัสคาสั่งสอนให้เฟยาเอาอย่างเฟเรีย
งู? หรือว่าจะเป็นชายคนนั้น จะว่าไปแล้ว ชายคนนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่านางคือเฟเรียด้วยนี่
“พ่อค้าคนนั้นเขา รูปร่างอ้วน ๆ หรือเปล่าท่านพ่อ”
“ใช่ เจ้ารู้จักเขาด้วยหรือ”
“ข้าเป็นคนช...”
“อ้าว เจ้ากลับมาแล้วหรือเฟยา” เฟเรียเห็นเฟยากลับมาแล้วก็รีบวิ่งมาหาทันที
“เจ้าดูของพวกนี้สิ มีแต่ของสวย ๆ ทั้งนั้น เจ้าอยากได้อะไรเจ้าก็หยิบไปเลยนะ”
“เฟเรีย เจ้าช่วยพ่อค้าคนนั้นไว้หรือ” นางไม่คิดว่าเฟเรียจะสมอ้างว่าตนเองเป็นคนช่วยเหลือชายคนนั้น
“ข้าคิดว่าอย่างนั้นนะ เจ้าจำวันที่ไปตามข้าตอนที่ข้าเก็บดอกไม้ได้ไหม ระหว่างทางกลับบ้านข้าเจอเขาและให้ดอกไม้เขาไปดอกหนึ่ง ข้าเคยได้ยินว่าพวกงูมันไม่ชอบดอกไม้ชนิดนี้ มันคงรู้น่ะว่าท่านลุงคนนั้นเก็บดอกไม้นั้นไว้ มันเลยไม่ทำอันตราย”
“อย่างนั้นหรอกหรือ” เฟยารู้สึกละเหี่ยใจ
ช่างไร้สาระเสียจริง เฟเรียก็พลอยเข้าใจผิดไปด้วย...เฮ้อ
เอาเถอะ ยังไงเสียก็เข้าใจผิดกันทั้งหมดแล้ว ถึงนางจะพูดไปว่าคนที่ช่วยเขาที่แท้คือนาง ใครจะเชื่อ ถึงจะรู้สึกน้อยใจบ้าง แต่จะให้ทำอย่างไรได้
เฟยาเดินวนดูลังแต่ละใบ ของมีค่ามากมายบรรจุอยู่เต็มลัง ต่างคนต่างชื่นชมของที่ตนเองสนใจทั้งนั้น ท่านแม่ดูจะชมชอบพวกผ้าเนื้อดี และเครื่องประดับ เฟเรียสาละวนอยู่กับเครื่องประดับบ้างก็ยกขึ้นมาถามความเห็นจากท่านแม่ บ้างก็ลองสวม ลองใส่ดู ส่วนท่านพ่อก็อยู่ท่ามกลางเครื่องกระเบื้องมากมาย
นั่น!
มีอยู่ลังหนึ่ง ของข้างในช่างให้ความรู้สึกคุ้นเคยเสียจริง ขวดกระเบื้องมากมายวางเรียงอยู่ภายในกันอย่างเป็นระเบียบ
ขวดเหล้า
ถ้าอาจารย์เห็นเข้า คงแทบคลั่ง นางไม่รู้ว่าเหล้ามากมายที่อยู่ตรงหน้า กับเหล้าของคนแคระที่กระท่อมท้ายตลาด อย่างไหนจะถูกใจอาจารย์ของนาง ทว่า...ในเมื่อมีคนให้เหล้ามามากมายขนาดนี้ แอบเอาไปให้อาจารย์สักสามสี่ขวดคงไม่มีใครรู้ ของได้มาโดยไม่ต้องเสียเงินทำไมจะไม่เอาล่ะ
เฟยาเก็บขวดเหล้าเปล่าของอาจารย์ที่ทิ้งไว้ในถ้ำสับเปลี่ยนกับขวดเหล้าในลังที่ได้มา แล้วแอบเอาไปให้อาจารย์เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปฝึกเวทย์
“เจ้าเอาเหล้าอะไรมาให้ข้าน่ะเดวา มันไม่เหมือนอย่างเคยนี่”
“เหล้านี่ข้าเอามาจากที่บ้านเอง วันก่อนมีคนมาให้เยอะเลย ข้าเลยแบ่งมาให้ท่าน แล้ว...เป็นอย่างไรบ้าง”
“เจ้าเอาแบบเดิมมาให้ข้าดีกว่า เหล้านี่ก็รสดีอยู่หรอก แต่ข้าชอบแบบเดิมมากกว่า” ไม่ว่าเหล้าชั้นดีมาจากไหนก็เทียบไม่ได้กับรสเหล้าอันร้อนแรงของเจ้าคนแคระนั่น
“อย่างนี้มันน่าปลื้มใจแทนเจ้าคนแคระนั่นจริง ๆ เลย ไว้วันหลังข้าจะไปบอกเจ้าคนแคระนั้นให้ว่าอาจารย์น่ะ ชอบเหล้าของเขาที่สุด เหล้าดีมาจากไหนก็สู้ของเขาไม่ได้ แล้ว...เหล้าพวกนี้จะเอายังไง ข้าเอาไปเก็บไว้ที่เดิมแล้วกัน”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง เสียดายของ” ชายหนุ่มกอดขวดเหล้าไว้แน่น “รอหมดก่อนก็ได้”
“ว่าแต่ข้าก็สอนให้เจ้าควบคุมพลังมาตั้งนานแล้วนะ ทำไมป่านนี้เจ้ายังควบคุมพลังของตนเองยังไม่ได้เสียที”
“ข้าก็ทำตามที่อาจารย์สอนทุกอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมตามที่ใจนึกได้เสียที”
ชายหนุ่มมีสีหน้ากังวล เขาสอนนางมาได้หลายปี นางเป็นคนเรียนรู้ได้ไวและมีพรสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยม ป่านนี้นางน่าจะควบคุมพลังของตนเองได้แล้ว แต่นางก็ยังไม่สามารถควบคุมมันได้เสียที
ปัญหาอาจจะอยู่ที่พลังของนาง
ยิ่งนับวันพลังของนางก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้เสียที เพราะพลังของนางมันมักจะคอยล้นออกมาอยู่เรื่อยน่ะสิ
อาจจะต้องรอให้พลังของนางคงที่เสียก่อน เขาถึงจะสามารถสอนเวทย์อื่น ๆ ให้นางได้
“อาจารย์ ข้ามันไม่เอาไหนหรือ” เฟยาเองก็กังวล นางหัดควบคุมพลังของตนมาตั้งนานแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมมันได้เสียที ทั้ง ๆ ที่นางตั้งใจฝึกฝนมาตลอด
“เจ้าไม่ได้ไม่เอาไหนหรอกเดวา ฝึกฝนอีกสักหน่อยอะไร ๆ มันก็จะเข้าที่เอง”
นางก็หวังว่าจะเป็นดังเช่นที่อาจารย์บอก
“เฟเรีย พ่อสอนเวทย์ที่พ่อรู้ให้เจ้าไปหมดแล้ว ตอนนี้พ่อไม่สามารถสอนเจ้าได้อีก ตั้งแต่พรุ่งนี้พ่อจะพาเจ้าไปฝากฝังเป็นศิษย์กับจอมเวทย์ท่านหนึ่ง” ตลอดหลายปีมานี้เขาสอนนางทุกอย่างที่เขารู้จนเขาไม่สามารถสอนอะไรให้นางได้อีก เขาไม่อยากให้นางจบอยู่เพียงเท่านี้ นางสามารถไปไกลได้ยิ่งกว่าเขา
“ใครหรือท่านพ่อ”
“ท่านผู้เฒ่า”
“ท่านผู้เฒ่าหรือท่านพ่อ” ท่านผู้เฒ่าที่ว่าหมายถึงผู้ปกครองดินแดนอีสการ์ด ผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจสูงสุดในดินแดนอีสการ์ด
“ใช่ ท่านผู้เฒ่าเป็นจอมเวทย์ระดับสูง เก่งกล้าสามารถนัก พ่อได้ขอร้องให้ท่านรับเจ้าเป็นศิษย์ ท่านเห็นว่าเจ้าเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ มีพรสวรรค์ในการฝึกเวทย์ ท่านจึงรับเจ้าเป็นศิษย์ เฟเรีย ท่านผู้เฒ่าไม่ได้รับใครเป็นศิษย์ง่าย ๆ การได้เป็นลูกศิษย์ของท่านถือว่าเป็นเกียรติยิ่งนัก เจ้าต้องตั้งใจเรียนรู้ให้ดีล่ะ”
“ข้าเข้าใจแล้วท่านพ่อ”
“เมื่อเจ้าเติบใหญ่เจ้าจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เหนือใคร ๆ ฉะนั้นตอนนี้เจ้าต้องเรียนรู้ไว้ให้มาก ๆ ล่ะ”
“แล้วเฟยาเล่าท่านพ่อ นางจะได้เรียนกับข้าหรือไม่”
“ท่านผู้เฒ่ารับเพียงเจ้าเท่านั้น เพราะท่านเห็นพรสวรรค์ของเจ้าถึงได้รับเจ้าเป็นศิษย์ ส่วนเฟยานั้นไม่เคยแม้แต่จะฝึกเวทย์ เจ้าอย่าไปสนใจนางเลย”
“แต่ข้าอยากให้นางได้เรียนเหมือนข้า” นางกลัวว่าเฟยาจะน้อยใจ
“นางมีแต่จะถ่วงแข้งถ่วงขาเจ้าเปล่า ๆ เจ้าตั้งใจฝึกเวทย์ให้ดีเถอะ ส่วนเฟยานั้นเจ้าไม่ต้องสนใจไป”
“ค่ะ ท่านพ่อ” เฟเรียรับคำอย่างไม่กระตือรือร้น นางอยากให้เฟยาได้เรียนเวทย์เหมือนนาง นางรู้สึกไม่ดีเลยที่นางได้มีโอกาสดี ๆ แต่เฟยากลับไม่มี
เรื่องท่านผู้เฒ่ารับเฟเรียเป็นศิษย์ล่ำลือไปทั่วอีสการ์ด บ้างก็แสดงความยินดี บ้างก็อิจฉา เพราะท่านผู้เฒ่านั้นไม่เคยรับใครเป็นศิษย์มาก่อน และเฟเรียก็เป็นคนแรกและยังได้เป็นศิษย์ของท่านตั้งแต่ยังเด็ก
“เฟเรีย เจ้าจะได้ฝึกเวทย์กับท่านผู้เฒ่าหรือ” เฟยาถาม
“ใช่ ท่านพ่อขอให้ท่านผู้เฒ่ารับข้าไว้น่ะ ที่จริงข้าอยากให้เจ้าไปเรียนกับข้าด้วย เพียงแต่ว่า...” นางกลัวเฟยาจะน้อยใจ แต่ตรงกันข้าม เฟยากลับดีใจจนออกนอกหน้าแทนนาง
“เจ้าโชคดีมากเลยเฟเรีย ใคร ๆ ก็อยากให้ท่านผู้เฒ่ารับเป็นศิษย์ทั้งนั้น เจ้าเก่งมาเลยนะ”
“เจ้าก็หมั่นฝึกเวทย์บ้างสิ เมื่อข้าเป็นศิษย์ของท่านผู้เฒ่าแล้ว ข้าจะลองขอให้ท่านรับเจ้าเป็นศิษย์อีกคน”
“อย่าเลย” นางมีอาจารย์คอยสอนนางแล้ว “ข้าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก”
ไม่กี่วันถัดมาอัสคาก็พาเฟเรียไปฝากฝังไว้กับท่านผู้เฒ่าแห่งอีสการ์ด
“เจ้าน่ะหรือเฟเรีย” เขาจ้องมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา “ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวอายุเช่นเจ้า จะสามารถฝึกเวทย์ไปได้ไกลถึงเพียงนี้ พวกเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มฝึกเวทย์กันเอง”
“เพราะท่านพ่อช่วยสั่งสอนค่ะ ข้าถึงเรียนรู้ได้มากกว่าคนอื่น ๆ”
ได้ฟังนางเจรจา ท่านผู้เฒ่าก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ เด็กสาวคนนี้นอกจากมีพรสวรรค์แล้ว ยังเป็นเด็กดียิ่ง รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่รับนางไว้เป็นศิษย์
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เจ้าจงมาหาข้าที่นี่ในเวลาเช้าตรู่ เจ้าต้องมาทุกวันและห้ามมาช้าเด็ดขาด หากวันไหนเจ้าหยุด หรือว่ามาสาย เจ้าจะต้องโดนลงโทษ เข้าใจที่ข้าบอกใช่ไหม”
“ค่ะ ข้าจะพยายาม” เขาเข้มงวดกับนางตั้งแต่เริ่ม แต่นางก็ต้องพยายาม
เฟยาเล่าให้อาจารย์ของนางฟังเรื่องท่านผู้เฒ่ารับเฟเรียเป็นศิษย์ เพราะอาจารย์ของนางอยู่แต่ในป่าต้องห้ามไม่ยอมออกไปไหน นางจึงต้องคอยเล่าให้เขาฟังว่านอกป่าต้องห้ามนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ส่วนใหญ่นางมักจะบ่น และตัดพ้อให้อาจารย์ฟังเสียมากกว่า
“มีแต่คนบอกว่าท่านผู้เฒ่าไม่ยอมสอนเวทย์ให้ใครง่าย ๆ แต่นี่เขารับเฟเรียเป็นศิษย์ ท่านว่านางโชคดีมากเลยใช่ไหม ตอนนี้ทั่วทั้งอีสการ์ดมีแต่คนพูดเรื่องนี้กันทั้งนั้น ข้าดูออกว่าพวกเขาคงอิจฉานาง”
“แล้วเจ้าไม่อิจฉานางหรือ เดวา”
“ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว ข้าจะอิจฉานางทำไมกัน” เฟยาประจบ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มยิ้มได้
ผู้เฒ่าผู้ปกครองดินแดนทั้งสี่ทิศ นอร์ทการ์ด อีสการ์ด เวสต์การ์ด และ เซาท์การ์ด ล้วนแล้วแต่เป็นจอมเวทย์ระดับสูงทั้งสิ้น ใครที่ได้เป็นพวกเขาสั่งสอนย่อมถือว่าเป็นโชค แต่เดวาของเขากลับไม่รู้อะไรเสียเลย นางโชคดีกว่าแฝดของนางมากมายนัก
“อาจารย์ ท่านกับท่านผู้เฒ่าใครเก่งกว่ากัน” นางเริ่มเปรียบเทียบอาจารย์ของนาง กับอาจารย์ของเฟเรียว่าใครจะเก่งกว่ากัน
“ก็ต้องข้าน่ะสิ”
“ท่านเคยบอกว่าท่านเก่งกว่าพ่อของข้า แล้วตอนนี้ท่านยังบอกว่าท่านเก่งกว่าท่านผู้เฒ่าอีก นี่ท่านกำลังโอ้อวดอยู่หรือท่านอาจารย์”
“อุวะ นังเด็กนี่ นี่เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดหรือ”
“ข้าเชื่อที่ท่านพูด แต่ว่า...ใคร ๆ ก็บอกว่าท่านผู้เฒ่าเก่งหาใครเทียบ”
“เดวา ในดินแดนทั้งสี่หัวหน้าผู้ปกครองดินแดนนั้นล้วนต้องเป็นผู้ที่เก่งกล้า แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผู้ใดที่เก่งกาจกว่าเขา เจ้ายังเด็กนักโลกของเจ้ายังแคบ หากวันหนึ่งเจ้าได้เดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ โดยเฉพาะมิดการ์ด ดินแดนซึ่งอยู่ตรงกลางดินแดนทั้งสี่ ที่นั่นเป็นศูนย์กลางของจอมเวทย์ทั้งหลาย เจ้าจะได้รู้ว่ายังมีคนที่เก่งกาจอยู่อีกมากมาย” เขาพูดถึงแดนดินซึ่งตั้งอยู่อยู่ตรงกลางระหว่างดินแดนทั้งสี่ ดินแดนซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของดินแดนทั้งหมด
“อาจารย์ ท่านเคยไปมิดการ์ดด้วยหรือ”
“ข้าเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน”
“ท่านเคยอยู่ที่นั่นหรือ ข้านึกว่าท่านอยู่ที่ป่าแห่งนี้ตั้งแต่เกิดเสียอีก”
ชายหนุ่มเขกหัวเด็กสาวเสียหนึ่งที ป่าแห่งนี้มีแต่ต้นไม้ใบหญ้า และพวกสัตว์เวทย์ นางคิดว่าเขาเกิดที่นี่ ที่ซึ่งไม่มีใครอาศัยอยู่ แล้วเขาเกิดจากพวกสัตว์เวทย์หรืออย่างไรกัน
“ท่านเขกหัวข้าทำไม ข้าเจ็บนะ”
“มันเรื่องของข้า” เด็กสาวลูบหัวตรงที่อาจารย์ของนางเขก
มันเจ็บจริง ๆ นะ
“อาจารย์วันหน้าท่านพาข้าไปที่มิดการ์ดบ้างสิ” นางอยากไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา
“ถ้าเจ้าอยากไปก็ไปเองเถอะ ข้าอยู่ที่นั่นมานานเสียจนเบื่อแล้ว ข้าถึงได้หนีมาอยู่ที่นี่อย่างไรเล่า”
“ท่านใจร้าย” นางตัดพ้อ
“เจ้านี่”
“ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว ไปดีกว่า” นางเดินออกห่างจากถ้ำไปเรื่อย ๆ ทั่วทั้งป่าต้องห้าม มีแต่ต้นไม้ใหญ่ที่แข่งกันแผ่กิ่งก้านจนบดบังแสงอาทิตย์ที่พยายามส่องลงมา ทำให้ช่วงกลางวันในป่าต้องห้ามเหมือนยามเย็นที่แสงอาทิตย์ไม่แรงกล้า แต่ก็มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่แสงอาทิตย์สามารถส่องลงมาถึงพื้นเพราะต้นไม้ที่บางตาว่าบริเวณอื่น ๆ นั่นก็คือบริเวณถ้ำที่อาจารย์อาศัยอยู่ กับแถวบริเวณบ่อน้ำที่นางชอบไปนั่งเล่นเป็นประจำ
เฟยานั่งห้อยขาอยู่ริมบ่อน้ำ แช่ขาในน้ำเย็นพลางฝึกควบคุมเวทย์ของตนตามที่อาจารย์สอน จนเมื่อท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้ม นางจึงลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากป่าต้องห้าม
เมื่อเดินใกล้ถึงทางออก เฟยาหันซ้ายหันขวา คอยระมัดระวังตัวก่อนออกจากป่า นางให้ใครรู้มิได้ว่านางรุกล้ำเข้าป่าต้องห้าม หากมีผู้ใดรู้เข้านางจะต้องถูกลงโทษหนัก
เฟยากลับถึงบ้านในเวลาใกล้ค่ำ นางจึงโดนท่านแม่บ่นถึงความเถลไถลของนาง ทั้งยังเปรียบเทียบนางกับเฟเรีย ลงท้ายด้วยการพร่ำสอนให้นางเอาอย่างเฟเรีย ตั้งใจฝึกเวทย์ และทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟัง
แล้วนางไม่ใช่เด็กดีตรงไหนกัน
ยิ่งเฟเรียได้ฝึกเวทย์กับท่านผู้เฒ่า ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ยิ่งจู้จี้กับนางมากยิ่งขึ้น เปรียบเทียบนางกับเฟเรียเกือบตลอดเวลา และมักจะคอยบอกนางอยู่เสมอว่าห้ามก่อเรื่องให้เดือดร้อน
เพราะหน้าตาของนางกับเฟเรียนั้นคล้ายกัน ถ้ามองผ่าน ๆ จะไม่สามารถแยกพวกนางได้ว่าใครเป็นใคร แต่ถึงจะจ้องมองก็เถอะ น้อยนักที่จะแยกออก
นางจะทำให้เฟเรียเดือดร้อนไม่ได้
นั่นคือสิ่งที่พวกท่านคอยพร่ำสอนนาง จนนางอดน้อยใจไม่ได้ที่พวกท่านเป็นห่วงแต่เฟเรีย ทั้งที่หน้าตาเหมือนกัน แต่นางกลับรู้สึกว่านางไม่ใช่ลูกสาวของพวกท่าน
สักวันนางจะหนีไปอยู่ถ้ำกับอาจารย์ให้รู้แล้วรู้รอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น